ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารที่ใช้ในการเติมเต็มหรือปรับรูปทรงของใบหน้า ซึ่งสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น และสร้างความเต่งตึงให้กับผิวหนัง สารที่นิยมใช้เป็นฟิลเลอร์คือกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid – HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติและสามารถดูดซึมได้โดยไม่เป็นอันตราย

ฟิลเลอร์ถูกใช้ในหลายจุดบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ริมฝีปาก ใต้ตา หรือการปรับรูปทรงคาง โดยทั่วไปแล้วผลของฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และตำแหน่งที่ฉีด

ฟิลเลอร์มีข้อดีหลายประการสำหรับการเสริมความงามและปรับปรุงลักษณะของใบหน้า ดังนี้:

1. ลดเลือนริ้วรอย: ฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
2. เพิ่มความเต่งตึง: ฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มปริมาตรให้กับผิวบริเวณที่สูญเสียความชุ่มชื้นหรือผิวบางลง เช่น แก้ม คาง หรือหน้าผาก ทำให้ใบหน้าดูเต็มและสมดุลมากขึ้น
3. ปรับรูปทรงใบหน้า: สามารถใช้ฟิลเลอร์เพื่อปรับปรุงรูปทรงของคางได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ทำให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการศัลยกรรม
4. ฟื้นฟูความชุ่มชื้น: ฟิลเลอร์ที่มีกรดไฮยาลูโรนิกช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูสดใสและเปล่งปลั่ง
5. กระบวนการที่รวดเร็ว: การฉีดฟิลเลอร์ใช้เวลาไม่นานและไม่ต้องพักฟื้นนาน ผู้เข้ารับการรักษาสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้เกือบจะทันที
6. ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ: ฟิลเลอร์โดยทั่วไปเป็นวิธีที่ปลอดภัย หากได้รับการฉีดโดยผู้เชี่ยวชาญ ผลข้างเคียงมักน้อยและไม่รุนแรง
7. สามารถปรับแต่งได้: ฟิลเลอร์สามารถปรับแต่งปริมาณและตำแหน่งการฉีดได้ตามความต้องการและความเหมาะสมของแต่ละบุคคล

ฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในการเสริมความงามและคงความอ่อนเยาว์

ฟิลเลอร์เหมาะกับบุคคลหลากหลายกลุ่มที่ต้องการปรับปรุงลักษณะใบหน้าโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีลักษณะดังต่อไปนี้:

1. ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย: คนที่เริ่มมีริ้วรอยลึก เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยรอบดวงตา สามารถใช้ฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มและทำให้ริ้วรอยเหล่านี้ดูตื้นขึ้น
2. ผู้ที่ต้องการเพิ่มความเต่งตึง: ผู้ที่สูญเสียความชุ่มชื้นและปริมาตรของผิวจากอายุที่เพิ่มขึ้น มักพบว่าใบหน้าดูผอมลงหรือไม่เต่งตึง ฟิลเลอร์สามารถช่วยเพิ่มปริมาตรให้กับบริเวณแก้ม คาง หรือริมฝีปากได้
3. ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงใบหน้า: คนที่ต้องการปรับรูปทรงของคาง หรือริมฝีปากโดยไม่ต้องการทำศัลยกรรม สามารถใช้ฟิลเลอร์เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่างใบหน้าให้สวยสมดุลมากขึ้น
4. ผู้ที่มีผิวแห้งและต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น: กรดไฮยาลูโรนิกในฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูอ่อนนุ่มและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
5. ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและไม่ต้องพักฟื้น: การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังการฉีด จึงเหมาะกับคนที่ต้องการความรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงลักษณะใบหน้า
6. ผู้ที่ยังไม่พร้อมสำหรับการทำศัลยกรรม: ฟิลเลอร์เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ยังไม่ต้องการทำศัลยกรรมใหญ่ แต่ต้องการทดลองปรับรูปทรงใบหน้าในลักษณะที่ไม่ถาวร
7. ผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก: ฟิลเลอร์สามารถช่วยเพิ่มความอวบอิ่มและปรับรูปทรงของริมฝีปากให้ดูสวยและชัดเจนขึ้น

โดยทั่วไปฟิลเลอร์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงและเสริมความงามในลักษณะที่ไม่ต้องทำศัลยกรรม

Q: ฟิลเลอร์คืออะไร?

A: ฟิลเลอร์คือสารที่ใช้เติมเต็มผิวหนังหรือปรับรูปทรงใบหน้า มักเป็นกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งช่วยลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความเต่งตึง และปรับโครงสร้างใบหน้า

Q: ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

A: ฟิลเลอร์สามารถอยู่ได้ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และบริเวณที่ฉีด รวมถึงการตอบสนองของร่างกายแต่ละคน

Q: ฟิลเลอร์มีความปลอดภัยไหม?

A: หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ฟิลเลอร์มีความปลอดภัยสูง แต่ผลข้างเคียงอาจมีอาการบวม ช้ำ หรือแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปในไม่กี่วัน

Q: หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องดูแลอย่างไร?

A: ควรหลีกเลี่ยงการกดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด หลีกเลี่ยงความร้อนจัดหรือการออกกำลังกายหนักในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

Q: ฟิลเลอร์ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

A: ฟิลเลอร์ช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก ปรับรูปทรงของคาง กรอบหน้า และเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก

Q: ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์?

A: หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่แพ้สารประกอบในฟิลเลอร์ หรือผู้ที่มีโรคผิวหนังอักเสบหรือแผลเปิดในบริเวณที่ฉีด

Q: ฉีดฟิลเลอร์แล้วเห็นผลทันทีหรือไม่?

A: ใช่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังการฉีด แต่ผลที่สมบูรณ์อาจจะชัดเจนขึ้นหลังอาการบวมลดลง

Q: การฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม?

A: อาจมีความรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย แต่แพทย์มักจะใช้ยาชาเพื่อลดความเจ็บปวด

Q: หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าจะบวมไหม?

A: อาจมีอาการบวมเล็กน้อยหลังฉีด แต่จะลดลงภายใน 1-2 วัน

Q: ฟิลเลอร์แตกต่างจากโบท็อกซ์อย่างไร?

A: ฟิลเลอร์ใช้สำหรับเติมเต็มและเพิ่มปริมาตรให้กับผิว ส่วนโบท็อกซ์ใช้เพื่อลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและป้องกันการเกิดริ้วรอย